หากคุณกำลังมองหาปุ๋ยเกล็ดเร่งดอกพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมปุ๋ยเกล็ดเร่งดอกชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ ปุ๋ยเกล็ดเร่งดอก ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ ปุ๋ยเกล็ดเร่งดอก ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้
2. 0-52-34 ปุ๋ยเกล็ด เร่งดอกและหยุดการแตกใบอ่อน บรรจุ 1 กิโลกรัม
ปุ๋ยเกล็ดทางใบ 0 42 5 6 ปุ๋ยเกล็ดทางใบ 0 42 5 6 ปุ๋ยเกล็ดทางใบ เร่งสี ปุ๋ยเกล็ดเปิดตาดอก ปุ๋ยเกล็ด 5 25 30 ช่วยเร่งดอก หยุดการแตกใบอ่อนใช้สําหรับ ละลายน้ําเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนําไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือละลายน้ํารดหรือละลายให้ทางระบบน้ําหยด วิธีการใช้ควรพ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบ และทุกส่วนของพืช ทุกๆ 7-10 วัน ประกอบด้วย ปริมาณธาตุอาหารรับรอง ไนโตรเจนทั้งหมด N 0 ฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์ P2O5 52 โฟแทชที่ละลายน้ํา K2O34
ประโยชน์: ช่วยเร่งดอก หยุดการแตกใบอ่อน
อัตราการใช้: 25-50 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร(0.25-0.5 กก ต่อน้ํา 200 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน สามารถละลายน้ําได้ง่าย ไม่มีตะกอนและพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้ทันที
ธาตุไนโตรเจน: หน้าที่และความสําคัญต่อต้นพืช ช่วยทําให้พืชตัวตัวได้เร็วในระยะแรกของการเจริญเติบโต ช่วยเสริมใบและลําต้นให้มีสีเขียวเข้ม และช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีนให้แก่พืชที่ใช้เป็นพืชอาหาร เช่น ข้าวหรือหญ้าเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องควบคุมการออกดอกออกผลของพืช ช่วยเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น โดยเฉพาะพืชที่ให้ผลและเมล็ด อาการของพืชที่ขาดธาตุไนโตรเจน 1 ใบมีสีเขียวจางแล้วเหลือง โดยเฉพาะใบแก่ที่อยู่ตอนล่างของพืช ใบจะเหลืองผิดปกติจากใบล่างไปสู่ยอด 2 ลําต้นจะผอม กิ่งก้านลีบเล็ก และมีใบน้อย 3 พืชบางชนิดอาจจะมีลําต้นสีเหลือง หรืออาจจะมีสีชมพูเจือปนด้วย 4 ใบพืชที่มีสีเหลือง ปลายใบและขอบใบจะค่อย ๆ แห้งและลุกลามเข้ามาเรื่อย ๆ จนใบร่วงจากลําต้นก่อนกําหนด 5 พืชจะไม่เติบโต หรือโตช้ามาก ผลรากหรือส่วนที่สะสมอาหารมีขนาดลดลง ธาตุฟอสฟอรัส หน้าที่และความสําคัญต่อต้นพืช 1 ช่วยให้ราดดึงดูดโปแตสเซียมเข้ามาใช้เป็นประโยช์ได้มากขึ้น 2 ช่วยแก้ผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากพืชได้รับไนโตรเจนมากเกินไป 3 ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากฝอยและรากแขนงในระยะแรกของการเจริญเติบโต 4 ช่วยเร่งให้พืชแก่เร็ว ช่วนในการออกดอก และสร้างเมล็ดของพืช 5 เพิ่มความต้านทานต่อโรคบางชนิด ทําให้ผลผลิตมีคุณภาพดี 6 ทําให้ลําต้นของพืชจําพวกข้างแข็งขึ้นไม่ล้มง่าย อาการของพืชที่ขาดธาตุฟอสฟอรัส 1 พืชจะชะงักการเจริญเติบโต ต้นแคระแกรน พืชบางชนิดอาจจะมีลําต้นบิดเป็นเกลียว เนื้อไม้จะแข็ง แต่เปราะและหักง่าย 2 รากจะเจริญเติบโตและแพร่กระจายลงในดินช้างกว่าที่ควร ดอกและผลที่ออกมาไม่สมบูรณ์ หรือบางครั้งอาจหลุดร่วงไป หรืออาจมีขนาดเล็ก หรือค่อนข้างจะสุกหรือแก่ช้ากว่าปกติ 3 พืชจําพวกลําต้นอวบน้ําหรือลําต้นอ่อน ๆ จะล้มง่าย 4 ใบแก่จะเปลี่ยนสีหรือพืชบางชนิดใบจะเป็นสีม่วง ใบมีลักษณะสีม่วงแดงบนแผ่นใบ เส้นใบ และลําต้นจะเห็นเด่นชัด ทางด้านใต้ใบสําหรับฝั่งใบจะมีสีทึบเข้ม อาการจะเกิดขึ้นกับใบล่าง ๆ ของต้นขึ้นไปหายอด ธาตุโปแตสเซียม หน้าที่และความสําคัญต่อต้นพืช 1 ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทําให้รากดูดน้ําได้ดีขึ้น 2 มีความจําเป็นต่อการสร้างเนื้อของผลไม้ให้มีคุณภาพดี 3 ทําให้พืชมีคามต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ 4 ทําให้พืชมีความต้านทานต่อโรคต่าง ๆ 5 ช่วยป้องกันผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับพืช เนื่องจากการได้รับไนโตรเจนและฟอสฟอรัสมากเกินไป 6 ช่วยเพิ่มคุณภาพของพืชผักและผลไม้ โดยทําให้พืชมีสีสัน ขนาด ความหวาน และคงทนต่อสภาวะแวดล้อมได้ อาการของพืชที่ขาดธาตุโปแตสเซียม 1 ขอบใบเหลือง และกลายเป็นสีน้ําตาล โดยเริ่มต้นจากปลายใบเข้าส่งกลางใบ ส่วนที่เป็นสีน้ําตาลจะแห้งเหี่ยวไป จะเกิดจากใบล่างก่อน แล้วจึงค่อย ๆ ลามขึ้นข้างบน พืชที่เห็นชัดคือข้าวโพด 2 ทําให้ผลผลิตตกต่ํา พืชจําพวกธัญพืชจะทําให้เมล็ดลีบ มีน้ําหนักเบา พืชหัวจะมีแป้งน้อยและน้ํามาก ข้าวโพดจะมีเมล็ดไม่เต็มฝัก ฝักจะเล็กมีรูปร่างผิดปกติ ใบยาสูบมีคุณภาพต่ํา ติดไฟยาก กลิ่นไม่ดี พืชจําพวกฝ้ายใบจะมีสําน้ําตาลปนแดง สมอฝ้ายที่เกิดขึ้นจะไม่อ้าเต็มที่เมื่อแก่ ถ้าเป็นมะเขือเทศเนื้อจะเละ
3. ปุ๋ยเกล็ด 0-40-54 กดยอด กระตุ้นดอก เพิ่มรสชาติ บรรจุ 1 กิโลกรัม
สะสมอาหาร เร่งการออกดอก เร่งใบพืชให้แก่เร็ว ใช้เป็นแม่ปุ๋ยเพื่อผสมปุ๋ยสูตรต่างๆ โดยการละลายน้ําเพื่อฉีดพ่นใบพืชโดยตรง ซึ่งพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนําไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือละลายน้ํารดหรือละลายให้ทางระบบน้ําหยด ประกอบด้วย ไนโตรเจนทั้งหมด (N) 0% ฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์ (P2O5) 40% โฟแทชที่ละลายน้ํา (K2O) 54% อัตราการใช้ 25-50 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร(0.25-0.5 กก.ต่อน้ํา 200 ลิตร) พ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบ และทุกส่วนของพืชฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
ประโยชน์: สามารถละลายน้ําได้ และพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารเข้าทางรากและ ทางใบ ช่วยเร่งดอก หยุดการแตกใบอ่อนใช้สําหรับ ละลายน้ํารดหรือละลายให้ทางระบบน้ําหยดจริญเติบโต และบํารุงผลไม่มีตะกอนและพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้ทันที Back-facing Dress with back display look how pretty it is bla blah blah Side-facing Dress with side display look how pretty it is bla blah blah
4. ปุ๋ยเกล็ด 13-0-46 ชาลีเฟรท เร่งช่อเปิดตาดอก บรรจุ 10 กิโลกรัม
ปุ๋ยเกร็ด 46 0 0 ยกลัง ดิน ประสิว ดิน ประสิว ปุ๋ยเกล็ดทางใบ 13 5 4 2 ปุ๋ยเกล็ด 13 0 46 25 กก ปุ๋ยกิฟฟารีน 10 52 17
5. ปุ๋ยเกล็ด ยิบอินเฟิท 10-20-30 1กก. สูตรเร่งดอกและผล
ปริมาณธาตุอาหารรับรอง ไนโตรเจนทั้งหมด 10% ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ 20% โพแทสเซียมที่ละลายน้ํา 30% ปริมาณธาตุอาหารรอง แมกนีเซียม 0.27% ปริมาณธาตุอาหารเสริม เหล็ก 0.098% แมงกานีส 0.065% ทองแดง 0.050% สังกะสี 0.072% โบรอน 0.052% ประโยชน์ สามารถละลายน้ําได้และพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารเข้าทางรากและทางใบ ช่วยเสริมสร้างความเจริญเติบโตและความสมบูรณ์ให้แก่ดอก และผลในช่วงก่อนเก็บเกี่ยว พืชกลุ่มที่ 1 แตงต่างๆ ถั่วฝักยาวถั่วลันเตา มะเขือต่างๆผักกาดหอมไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผล อัตราการใช้ 50-100 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร พืชกลุ่มที่ 2 พืชผักตระกูลกะหล่ํา อัตราการใช้ 100-150 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร พืชกลุ่มที่ 3 พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับปะรด อัตราการใช้ 100-150 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร วิธีการใช้ ควรพ่นให้เป็นละอองเล็กๆพอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืชทุกๆ 7-10 วัน
6. ปุ๋ยเกล็ด ออคิเดนซ์ 6-32-25 สูตรเร่งดอก ช่วยกระตุ้นการแตกตาดอก ราก ขนาด 1 กิโลกรัม
ปุ๋ยเกล็ดทางใบ เร่งสี ปุ๋ยเร่งดอกสีเหลือง ปุ๋ยเกล็ดทุ่งเศรษฐี ปุ๋ยเกล็ด 16 16 1 6 ปุ๋ยเร่งดอก 52 0 0
7. ปุ๋ยเกล็ดสูตรเร่งใบแก่ 0-35-40*ใบแก่ภายใน3 วัน* 1กก.ดึงดอก นวัตกรรมสเปรย์ดราย พืชนําไปใช้ได้ทันที ใช้น้อยคุ้มค่า
คัตติ้งโปร 0-35-40 ขนาด 1 กก **สูตรเร่งใบแก่ เพิ่มการสะสมอาหาร ดึงดอก**
ปริมาณธาตุอาหารรับรอง : ไนโตรเจนทั้งหมด (N)......0 ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P2O5)...35% โพแทสที่ละลายน้ํา (K2O)......40%
คุณสมบัติ : *คัตติ้งโปร*เป็นปุ๋ยทางใบคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตแบบสเปรย์-ดราย (Spray-dry Technology) ด้วยอนุภาคที่เล็กละเอียดขนาด 1-5 ไมครอน ช่วยให้เกาะติดใบพืชได้ดี ลดปัญหาการชะล้างจากฝนและค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้พืชได้นาน 10-14 วัน
ประโยชน์ : ช่วยให้พืชสะสมแป้งและน้ําตาลได้ดีขึ้น จึงช่วยเพิ่มการออกดอกและติดผล ลดปัญหาการหลุดร่วง เร่งใบแก่ได้ดี และการพ่นในระยะก่อนเก็บเกี่ยวช่วยเพิ่มความหวาน และคุณภาพผลผลิต อัตราและวิธีการใช้ ไม้ผล เช่น ส้ม มะม่วง ทุเรียน เงาะ มะนาว ส้มโอ ลําไย ลิ้นจี่ ชมพู่ มังคุด ลองกอง องุ่น ฝรั่ง น้อยหน่า มะยงชิด
อัตราการใช้ : 15 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร - สะสมอาหารเพื่อการออกดอก พ่น 2-3 ครั้ง ในระยะใบแก่ หรือก่อนออกดอก 1-2 เดือน - เพิ่มการติดผล พ่น 1 ครั้ง ในระยะเริ่มติดผล - เพิ่มความหวานและคุณภาพผลผลิต พ่น 1-2 ครั้ง ในระยะก่อนเก็บเกี่ยว ผักกินผล เช่น มะเขือเทศ มะเขือต่าง ๆ พริก แตงโม แคนตาลูป แตงกวา แตงต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา
อัตราการใช้ : 15 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร - ส่งเสริมการออกดอก พ่น 2-3 ครั้ง ในระยะก่อนออกดอก - เพิ่มการติดผล พ่นทุก 1-2 สัปดาห์ ไม้ดอกไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ กุหลาบ มะลิ
อัตราการใช้ : 15 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร เพิ่มการออกดอก และคุณภาพของดอก พ่น 2-3 ครั้ง ตั้งแต่ระยะก่อนออกดอก จนถึงระยะแทงช่อดอก นาข้าว
อัตราการใช้ : 50 กรัมต่อไร่ -พ่น 2 ครั้ง ครั้งแรก ระยะข้าวตังท้อง (65-75 วันหลังหว่าน) และครั้งที่ 2 ระยะโผล่เผล่ (ข้าวออกรวง 5% หรือ 75-85 วันหลังหว่าน)
8. ปุ๋ยเกล็ด เร่งดอก เร่งสี เร่งกลิ่น ดอกกุหลาบ ดอกดก ดอกใหญ่ แตกยอดไว รากเดินดี Fertilizer Rosefood
Little TREE Factory
9. ปุ๋ยเกล็ด สูตร 0-42-56 ตรากระทิงคู่ สุดยอดแห่งปุ๋ยเร่งดอกและสะสมอาหาร ปุ๋ยเคมี เตตระโปรตัสเซียม ไพโรฟอสเฟต
สุดยอดแห่งปุ๋ยเร่งดอกและสะสมอาหาร ปุ๋ยเคมี เตตระโปรตัสเซียม ไพโรฟอสเฟต สูตร 0-42-56 ตรากระทิงคู่
ประโยชน์ : - ระงับยับยั่งการแตกใบอ่อน ป้องกันผลร่วง - ช่วยการสะสมอาหารแป้งและน้ําตาลได้อย่างเต็มที่ - ช่วยเพิ่มน้ําหนักของผลผลิต เพิ่มความหวานและรสชาติที่ดี ผิวสีสันสดเข้ม - สามารถนําไปใช้เพื่อฉีดพ่นทางใบ หรือทางรากโดยการหว่านรอบรัศมีทรงพุ่ม - สามารถฉีดพ่นร่วมกับยาปราบศัตรูพืชอื่น ๆ ได้